ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ไต้หวัน เรือนจำเจียอี้ได้รับการกำหนดให้เป็นเรือนจำเฉพาะทางในการบำบัดฟื้นฟูผู้ต้องขังคดีล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554 เป็นต้นมา โดยดำเนินการตามแนวทาง "วิธีดำเนินการให้คำปรึกษาและบำบัดฟื้นฟูผู้ต้องขังในคดีล่วงละเมิดทางเพศและคดีผิดศีลธรรม" อย่างเคร่งครัด เรือนจำได้จัดทำแผนการบำบัดที่ครอบคลุมและมีความเป็นมืออาชีพ พร้อมทั้งปรับปรุงแผนอย่างต่อเนื่องตามการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อมุ่งลดอัตราการกระทำผิดซ้ำและความเสี่ยงของความรุนแรงทางเพศ โดยยึดมั่นในพันธกิจอันศักดิ์สิทธิ์ในการปกป้องความปลอดภัยของประชาชน โดยเฉพาะสตรีและเด็ก

เพื่อยกระดับความเชี่ยวชาญและทักษะเชิงปฏิบัติของเจ้าหน้าที่บำบัดฟื้นฟู เรือนจำได้ร่วมมือกับสมาคมนักจิตวิทยาคลินิกและสมาคมนักจิตวิทยาการปรึกษาแห่งเมืองเจียอี้ จัดการสัมมนาเชิงวิชาชีพสำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านการบำบัดผู้กระทำความผิดทางเพศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ณ หอประชุมอาคารบริหารของเรือนจำ ทั้งสองสมาคมมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในด้านสุขภาพจิตของประชาชนในพื้นที่เจียอี้ โดยเฉพาะในการบำบัดผู้กระทำผิดทางเพศ ซึ่งนักจิตวิทยาทั้งสองสาขาได้มีส่วนร่วมในการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพและส่งผลต่อการฟื้นฟูสุขภาพจิตของผู้ต้องขังอย่างมีนัยสำคัญ

ในโอกาสนี้ได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศาสตราจารย์และทนายความ ดร. จาง เจี้ยน จากภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยเอเชีย มาเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “กระบวนการพิจารณาคดีอาญาทางเพศและการบำบัดทางจิตวิทยา” เนื้อหาครอบคลุมถึงการประเมินความเสี่ยงและการวางแผนบำบัดรายกรณีอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผสมผสานระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติ พร้อมแนะนำกลยุทธ์ที่ใช้ได้จริง เพื่อช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจและจัดการกับปัญหาเชิงครอบครัวที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น

วัตถุประสงค์หลักของการสัมมนาครั้งนี้ คือ การส่งเสริมความรู้ความสามารถของบุคลากรในเรือนจำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในงานภาคสนามอย่างมีประสิทธิภาพ การสัมมนายังเป็นเวทีสำคัญให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เพื่อยกระดับคุณภาพการบำบัดในภาพรวม

นักบำบัดคุณหลิน หนึ่งในผู้เข้าร่วมอบรม ได้แบ่งปันความประทับใจว่า “การฝึกอบรมในครั้งนี้ไม่เพียงเพิ่มพูนความรู้ด้านวิชาชีพของข้าพเจ้าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เข้าใจทักษะการบำบัดในเชิงลึกยิ่งขึ้น และเรียนรู้แนวทางการแทรกแซงในมุมมองที่หลากหลาย ถือเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง”

การสัมมนายังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปรับปรุงความรู้และทักษะให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายที่เกิดขึ้น เรือนจำมุ่งมั่นสร้างสภาพแวดล้อมในการบำบัดที่มีความเป็นมืออาชีพและเปี่ยมด้วยความเห็นอกเห็นใจ ผ่านการอบรมเชิงวิชาชีพและการดูแลด้วยมนุษยธรรมเช่นนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกของผู้ต้องขัง และเสริมสร้างความสงบสุขและปลอดภัยให้กับสังคมโดยรวม